via visualcomplexity
Sovereign Wealth Fund (SWF) เป็นกลุ่มทุนใหม่ที่กำลังถูกจับตามองอย่างมาก ทั้งจากการเข้าไปช่วยพยุงสถาบันการเงินใหญ่ๆ ในช่วง credit crunch (เช่น Citigroup, Morgan Stanley, UBS) และกระแสต่อต้านทุนต่างประเทศ (เช่นกรณีรัฐบาบสหรัฐไม่ยอมให้ Dubai Ports World ซื้ัอหุ้น P&O Holdings และไม่ให้ CNOOC ซื้อหุ้น Unocal)
เพื่อแสดงให้เห็นคร่าวๆ ว่าการเข้าลงทุนใหญ่ๆ โดย SWF นั้น ใครซื้อใครกันบ้าง New York Times ก็เลยทำขึ้นมาให้ดูเป็นแผนที่ (คลิกที่ภาพเพื่อดูฉบับเต็ม)
จะเห็นว่า SWF จากตะวันออกกลางมีบทบาทมากที่สุด และจีนกับสิงคโปร์รองลงมา เพราะราคาน้ำมันแพง และเศรษฐกิจเอเชียที่ขยายตัวเร็ว ทำให้ประเทศพวกนี้มีเงินสำรองเหลือเยอะ ดีลที่ Temasek ซื้อ Shin Corp นั่นถือเป็นดีลที่ใหญ่อันดับ 8 ของโลกที่เดียว (นับตั้งแต่ปี 2005) โดยกิจการที่ถูกซื้อส่วนใหญ่จะอยู่ในกลุ่ม infrastructure ในประเทศกำลังพัฒนา และกลุ่มธนาคาร/สถาบันการเงิน
ประเทศไทยเองก็มีการคุยกัน ว่าควรเอาสำรองเงินตราต่างประเทศมาตั้งกองทุนบ้างไหม สำรองเงินตราต่างประเทศตอนนี้ มีอยู่ประมาณ 1.3 แสนล้านเหรีญ แต่ส่วนที่นำมาใช้ได้โดยไม่กระทบสเถียรภาพและความมั่นคง น่าจะเป็นประมาณ 1 หมื่่นล้านเหรียญ (ประมาณโดยสถาบันเศรษฐกิจการคลัง)
SWF Institute มีข้อมูลเกี่ยวกับ SWF มากพอสมควร ทั้งรายละเอียดกองทุนและกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้จังหวะพอดีกำลังหัดใช้ Many Eyes ก็เลยจับข้อมูลมาประมวลผลดูซักหน่อย (more)
เริ่มจากดูว่ากองทุนใหญ่ๆ มาจากประเทศไหนบ้าง และแบ่งกองทุนจากน้ำมัน กับอื่นๆ ออกให้ดู (ส่วนใหญ่เป็นเงินน้ำมัน) จะเห็นด้วยว่านอกจากสิงคโปร์กับจีน ประเทศอื่นส่วนใหญ่จะมี SWF ประเทศละกองทุนเดียว
เปรียบเทียบขนาด SWF ตามประเทศ ในรูป tree map สีบอกถึงความโปร่งใสของกองทุน ยิ่งส้มยิ่งดี
ดูว่า SWF ใหญ่ๆ ในโลกอยู่ตรงไหนบ้าง