ผมใช้โทรศัพท์มือถือเครือข่าย AIS และก็นับวันรอที่จะได้ใช้ 3G เครือข่ายใหม่อย่างใจจดจ่อมาก (ถึงกับกดสมัครขออัพเกรดเครือข่ายไปรัวๆ ทุกวันอยู่หลายอาทิตย์) และในที่สุดก็ได้อัพเกรดสมใจไปเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม ก่อนเขาเปิดตัวอย่างเป็นทางการ 1 วัน

เครือข่ายใหม่ มาพร้อมกับแพ็กเกจใหม่ให้เลือกใช้ (ซึ่งก็ยังถกเถียงกันอยู่ว่าเข้าเงื่อนไขที่ต้องลดราคา 15% จากเดิมหรือเปล่า) ผมใช้เแพ็กเกจเดิมมาราวๆ ปีครึ่ง ตั้งแต่ย้ายมาจาก DTAC ก็คิดว่าเป็นโอกาสดีที่จะทบทวนว่ายังเหมาะอยู่รึเปล่า

แพ็กเกจปัจจุบัน (ซึ่งก็โอนมาใช้บนเครือข่ายใหม่ด้วย)

• แพ็กเริ่มต้น 400 แพ็กเกจ AIS Smart 400 ค่าบริการขั้นต่ำรายเดือน 400 บาท โทรฟรีทุกเครือข่าย 400 นาที ส่วนเกินนาทีละ 1.50 บาท ตลอด 24 ชม.
• แพ็กเกจ SMS 50 บาท ส่ง SMS ฟรี 50 ข้อความ SMS Package เหมาจ่าย 50 บาท ใช้ฟรี SMS 50 ข้อความ
• แพ็ก3G 799บ. ใช้ 3G/EDGE และ Wifi ไม่จำกัด* เหมาจ่าย 3G Package เดือนละ 799 บาท ใช้บริการ 3G/EDGE และ Wifi ไม่จำกัด
  *ใช้งานที่ความเร็วสูงสุดได้ถึง 3GB หลังจากนั้นใช้ได้ไม่จำกัด แต่ได้ที่ความเร็วสูงสุด 384 Kbps

 

AIS มีเมนู “แนะนำแพคเกจที่เหมาะกับคุณ” ซึ่งให้คำตอบว่าที่ผมใช้อยู่ก็เหมาะอยู่แล้ว แต่เราเป็นนักวิทยาศาสตร์ย่อมไม่เชื่อง่ายๆ โดยไม่เห็นหลักฐาน

ข้อมูล

ข้อมูลที่ใช้ หาได้จาก eService ของ AIS ตรงเมนู รายละเอียดค่าใช้บริการ ซึ่งดูย้อนหลังได้ 3 เดือน แบ่งเป็นรายละเอียดการโทร และรายละเอียดการใช้ internet/SMS/MMS

 

3 เดือนแรกของปีนี้ผมไม่ได้เดินทางไปต่างประเทศ ข้อมูลก็น่าจะตรงกับการใช้จริงๆ

เวลาดึงข้อมูลดู สามารถตั้งเงื่อนไข filter ได้เยอะมาก ตอนนี้ผมต้องการดูข้อมูลการใช้งานทั้งหมด ก็เลือกข้อสุดท้าย

 

 

ข้อมูลที่แสดงก็จะเป็นราวๆ นี้ รายละเอียดส่วนที่เป็น internet/SMS ก็จะต่างไปบ้าง สรุปว่าก็ละเอียดพอที่ต้องการล่ะนะ (เบอร์ปลายทางมองเห็นนะครับ ผมบังไว้เฉยๆ)

 

จากหน้าจอนี้ เลือกให้แสดงรายการทั้งหมด แล้ว copy จากหน้าจอ browser ไป paste ใน Excel ได้เลย มีต้องแก้การเรียงข้อมูลนิดหน่อยเท่านั้นเอง

หลังจากนั้นก็เริ่มวิเคราะห์ข้อมูลได้ โดยไม่ได้ทำอะไรยากเลย เพราะ AIS มีคอลัมน์ “ค่าบริการที่เรียกเก็บ” สำหรับแต่ละรายการให้มาแล้ว ทำให้ไม่ต้องยุ่งยากคำนวณเองเหมือนที่ผมเคยทำกับแพ็กเกจ DTAC เมื่อหลายปีก่อน

 

ค่าโทรศัพท์

จากข้อมูลจริง ผมโทรศัพท์แบบสั้นๆ ไม่เกิน 1 นาทีเยอะมาก

Histogram สร้างจาก Wessa P., (2012), Histogram (v1.0.12) in Free Statistics Software (v1.1.23-r7),
Office for Research Development and Education, URL http://www.wessa.net/rwasp_histogram.wasp/

สรุปรวบยอด ถ้าไม่รวมโทรไปต่างประเทศนิดๆ หน่อยๆ จำนวนการโทรของผมเป็นแบบนี้

สรุปค่าโทร

รอบบิล	นาที	ค่าบริการที่ใช้จริง	ค่าบริการที่เรียกเก็บ
Jan 2013	106	421.5	0
Feb 2013	64	229.5	0
Mar 2013	94	235.5	0

 

เพิ่งรู้ตัวเหมือนกัน ว่าผมใช้งานโทรศัพท์เดือนนึงแค่ประมาณ 100 นาทีเท่านั้นเอง ดังนั้นที่ว่าแพ็กเกจปัจจุบันเหมาะแล้ว ก็ไม่จริง แพ็กเกจเริ่มต้น 200 บาทโทรได้ 200 นาทีทุกเครือข่ายก็เกินพอแล้ว ก็เลยโทรไปเปลี่ยนเรียบร้อย

 

ค่า SMS

สรุปค่า SMS

รอบบิล	ประเภท	จำนวน	ค่าบริการที่ใช้จริง	ค่าบริการที่เรียกเก็บ
Jan 2013	SMS	18	36	0
	SMS reciept	14	14	14
	Total	32	50	14
Feb 2013	SMS	35	70	0
	SMS reciept	33	33	33
	International	3	27	27
	Total	71	130	60
Mar 2013	SMS	35	70	0
	SMS reciept	29	29	29
	Total	64	99	29

 

ส่วนที่เป็นการใช้ SMS จริงๆ ของผมอยู่ที่เดือนละ 30 กว่าครั้ง ซึงก็ครอบคลุมอยู่ในแพ็กเกจ SMS 50 บาท ถ้าเทียบคอลัมน์ “ค่าบริการที่ใช้จริง” กับ “ค่าบริการที่เรียกเก็บ” รวมๆ แล้วใช้แพ็กเกจนี้ก็ยังดีกว่าไม่ใช้

จริงๆ ถ้าปิด SMS reciept ก็จะถูกลงไปอีก แต่ผมชอบเพราะมันอุ่นใจดีว่าได้รับแน่ๆ

ค่าบริการส่วนนี้คงจะเยอะกว่านี้มากถ้าโลกนี้ไม่มี messenger app อย่าง WhatsApp หรือ LINE ซึ่งจริงๆ ก็ดีกว่าทุกอย่าง นอกจากมี sent confirmation ยังมี read notification แถมส่งรูปส่งวีดีโอได้อีกต่างหาก แต่บางทีก็ยังใช้ SMS อยู๋บ้างด้วยความเคยชิน และเพราะฟังก์ชั่นส่ง message บอกว่า “ไม่ว่าง รับสายไม่ได้” มันยังต้องส่งด้วย SMS อยู่

 

ค่า mobile internet

แน่นอนว่าในการเปลี่ยนมาใช้เครือข่าย 3G จริงๆ (ซะที) จุดหลักก็ต้องอยู่ที่ data

ข้อมูลการใช้งาน 3 เดือนแรกของปีนี้ ผมใช้ data เฉลี่ยเดือนละ 2.12 GB ซึ่ง 93% วิ่งบนระบบ 3G เดิม และอีก 7% วิ่งบน EDGE

สรุปปริมาณข้อมูล (GB)

รอบบิล	3G	EDGE	Total
Jan 2013	2.26	0.19	2.45
Feb 2013	1.48	0.11	1.59
Mar 2013	2.20	0.12	2.32

 

โดยใช้งานเยอะที่สุดช่วงตื่นนอนและเดินทางไปทำงาน และมาเยอะอีกทีตอนพักกินข้าวกลางวัน

 

และถ้าแยกตามวันของสัปดาห์ก็จะเห็นว่าเสาร์อาทิตย์ใช้น้อยกว่าวันธรรมดามากๆ ซึ่งมีคำอธิบายอยู่ 2 อย่าง คือเสาร์อาทิตย์เป็นเวลาครอบครัว เราไม่ค่อยเล่นมือถือ หรือ จริงๆ ก็เล่นนั่นแหละ แต่อยู่บ้านใช้ WiFi 😛

 

ถ้าจะดูทั้งสองแกนพร้อมกัน ก็ทำได้แต่จะดูยากนิดหน่อย

สีเขียวคือช่วงที่แทบไม่ใช้ mobile data เลย (ก็อยู่บ้านน่ะนะ ซึ่งทำให้เห็นว่าวันเสาร์เรามักกลับบ้านช้า?)

วันพุธเป็นวันที่ใช้ mobile data ช่วงออกจากบ้านไปทำงาน น้อยกว่าวันทำงานอื่นๆ ไม่รู้เพราะอะไรเหมือนกัน แล้วก็จะไปใช้ทดแทนช่วงเที่ยงแทน กับอีกวันที่เห็นชัดคือเที่ยงวันศุกร์จะใช้ mobile data เยอะกว่าวันทำงานอื่นๆ คงเป็นเพราะวันศุกร์กินข้าวกลางวันกับทีมเลยใช้เวลานานหน่อย

แต่วันนี้เราต้องการดูเรื่องค่าบริการ!

ดังนั้นกลับมาที่เรื่องปริมาณข้อมูลรวมดีกว่า ก่อนจะเลยเถิดไปไกลกว่านี้

ขนาด 3G เดิมซี่งวิ่งไม่ค่อยไป ผมก็ยังใช้ mobile data เฉลี่ยเกิน 2GB ตอนนี้ได้เปลี่ยนมาใช้ AIS3G ของจริง ซึ่งเร็วใช้ได้ทีเดียว การใช้งานคงจะเพิ่มขึ้นแน่นอน

แพ็กเกจ 3G 799 บาทนี่ ดั้งเดิมจะใช้ความเร็วสูงสุดได้ถึง 3 GB แล้วความเร็วจะดร็อปลง ซึ่งเป็นแพ็กเกจของ AIS เดิมที่จะใช้ต่อไปหลังย้ายมาเป็น 2100 MHZ 3G ก็ได้ แต่ 2100 MHz 3G มีแพ็กเกจเสริม 799 บาทเหมือนกันที่ให้ใช้ได้ 4 GB ก่อนความเร็วจะถูกจำกัด ผมก็เลยเปลี่ยนเป็นอันนี้แทน (สำหรับผมที่โทรน้อยแต่ใช้ data เยอะ อันนี้คุ้มกว่า iSmart)

ประสพการณ์การเปลี่ยนแพ็กเกจทางโทรศัพท์

ถ้าจะคุยกับพนักงานที่เป็นคน ในช่วงนี้ต้องรอสายนานทีเดียว คงมีคนโทรเข้าไปทั้งถามข้อมูลทั้งสมัคร และอะไรต่อมิอะไรอีกเยอะมาก

แต่พอโทรติดแล้ว พนักงาน Call Center (ชื่อคุณศรันย์) มีความรู้ดีและบริการดีมาก เค้าแนะนำว่าถ้า 4GB ยังไม่พอ มีอีกทางเลือกคือใช้แพ็กเกจ Net SIM ราคาเดือนละ 999 บาท ซึ่งจะใช้ความเร็วสูงสุดได้ถึง 7 GB ก่อนจะถูกจำกัดความเร็ว แต่อันนั้นจะเป็นแพ็กเกจหลักเลย และไม่มีนาทีฟรี จ่ายตามใช้จริงนาทีละ 1.50 บาท

ซึ่งดูแล้วจุดตัดสินใจอยู่ที่ผมจะใช้ data เกิน 4GB หรือเปล่า ถ้าไม่เกิน ก็ยังไม่น่าเปลี่ยน ซึ่งตอนนี้ยังบอกไม่ได้จริงๆ เพราะเพิ่งใช้ 3G ใหม่มาได้ไม่กี่วัน

 

สรุป

แพ็กเกจที่เปลี่ยนมี 2 อย่าง คือลดแพ็กเกจหลักลงเหลือโทรฟรีเดือนละ 200 นาที และเปลี่ยนแพ็กเกจ 3G จากของ AIS เดิม เป็นของ AIS3G ราคา 799 เท่าเดิมแต่ได้ใช้ความเร็วสูงสุดเพิ่มขึ้นจาก 3GB เป็น 4GB