Technology
comment 1

Home Automation แบบบ้านๆ

ผมเคยใช้ระบบ Home Automation แบบที่ติดตั้งตอนสร้างบ้านเลย เป็นระบบของ Schneider ใช้ C-BUS เป็นศูนย์กลาง สวิทช์ไฟทั้งหมดวิ่งมาที่ C-BUS ซึ่งเป็นตัวควบคุมหลอดไฟอีกที แล้วก็ใช้ Wiser Home Controller เชื่อมให้สามารถเปิด/ปิด ไฟกับแอร์ได้ด้วยโทรศัพท์มือถือ

ใช้ไปได้ 2 ปีเจอปัญหาคือ หนึ่ง ใช้มือถือควบคุมสวิทช์ไฟกับแอร์ไม่ได้แล้ว เพราะ Wiser Home Controller ที่ใช้เป็นรุ่นแรก ถูกลอยแพแล้ว แอพทั้ง Android กับ iOS ไม่ซัพพอร์ทแล้ว สอง จะเปลี่ยนระบบเป็นยี่ห้ออื่น (เพราะอยากใช้ Amazon Alexa หรือ Google Home สั่งด้วยเสียง) ก็ต้องรื้อระบบไฟออกทั้งหมดเลย สุดท้ายทางเลือกที่มีก็คือต้องเปลี่ยน Wiser Home Controller เป็นรุ่นใหม่ขึ้น เพื่อให้กลับมาใช้งานได้กับมือถือ แต่เรื่องสั่งงานด้วยเสียงก็ยังไม่มีต่อไป

เลยรู้ซึ้งแล้วว่าในเวลาที่เทคโนโลยี Automation กับ Internet of Things กำลังพัฒนาเร็วแบบนี้ เราควรเลือกระบบเปิดที่ทำงานร่วมกันได้ระหว่างหลายๆ ยี่ห้อ (Sorry, Apple) ตอนนี้ก็กำลังติดใหม่ทีละชิ้น

หลังจากเลือกแล้วว่าจะใช้ Amazon Echo เป็นตัวกลาง เกณฑ์การเลือกอุปกรณ์ก็คือต้องทำงานกับ Echo ได้ และจะให้ดีต้องคุยกับ Echo ตรงๆ ได้ด้วยไม่ต้องผ่าน Hub เพิ่ม (Sorry, Samsung SmartThings) และแน่นอน ต้องใช้งานในเมืองไทยได้ ข้อนี้จะเป็นปัญหากับพวกสวิทช์ไฟ ต้องดูดีๆ ว่าใช้กับไฟ 220 โวลท์ได้

อุปกรณ์ตอนนี้มีอะไรบ้าง

ศูนย์กลางควบคุม – Amazon Echo Dot / Echo Tap

ระหว่างสองตัวนี้บอกได้เลยว่า Echo Dot ใช้ดีกว่ามาก จับสัญญาณ WiFi ไม่เคยมีปัญหา ไฟ status ก็เห็นชัดกว่าด้วย

สวิทช์ไฟ – Wemo Light Switch

หลังจากเลือกอยู่นาน ก็ได้ Wemo Light Switch ที่ใช้กับระบบไฟเมืองไทยได้ ที่ต้องระวังคือมันต้องการสาย neutral ถึงจะใช้ได้

สวิทช์ไฟเป็นอย่างเดียวที่ผมให้ช่างไฟช่วยติด เพื่อความปลอดภัย โดยถอดสวิทช์เดิมออกแล้วติดอันนี้แทน ปรากฎว่าบางจุดไม่มีสาย neutral แต่ช่างก็ช่วยเดินเพิ่มมาให้ได้ครับ พอติดแล้วก็เชื่อมกับ WiFi ด้วยแอพ ไม่ยากเท่าไหร่

สวิทช์ไฟของ Wemo ควบคุมได้จาก 3 อย่าง

  • ใช้มือกดเปิด/ปิด ตามปกติ
  • ผ่านแอพ Wemo
  • ด้วยเสียงผ่าน Alexa

“Alexa, Turn on Livingroom Light”

ปลั๊กไฟ – Wemo Mini Smart Plug

อันนี้ผมเอาไว้เปิดปิดโคมไฟหัวเตียง แค่เสียบบนปลั๊กธรรมดา แล้วเอาโคมไฟเสียบบน Smart Plug อีกทีก็เรียบร้อย วิธีต่อ WiFi เหมือนสวิทช์ไฟข้างบน

ที่ผมเลือกไม่ใช้ Philips Hue เพราะอันนั้นต้องซื้อ Hub ด้วย ส่วน Wemo นี่ทำงานได้ตรงๆ ไม่ต้องมี Hub ครับ

คุมทีวี – Logitech Harmony Hub

สำหรับการควบคุมทีวี เครื่องเสียง เครื่องเล่น DVD ตัวเลือกที่ดีที่สุดคือ Logitech Harmony Hub ที่ใส่ยี่ห้อกับรุ่นแล้วก็หาเจอเกือบทุกชิ้นที่ผมลอง ทั้งทีวี 4K รุ่นปัจจุบัน ไปจนรุ่นเมื่อเกือบ 10 ปีก่อน

เมื่อเพิ่มทีวีหรืออุปกรณ์อื่นในแอพ Harmony แล้ว ก็สามารถ เปิด/ปิด เปลี่ยนช่องบนแอพได้ และสั่งด้วยเสียงผ่าน Alexa ได้ครับ เสียดายที่บางคำสั่งต้องพูดยาวหน่อย

“Alexa, ask Harmony to turn up the volume”

Roku Streaming Stick

Roku รุ่นนี้เวิร์คมากครับ เล็ก ราคามิตรภาพ รีโมทเป็นแบบ point anywhere หลักๆ เอาไว้ใช้ดู Netflix / Plex / Youtubu

Roku UI ใช้ง่ายมาก ลูกผมใช้เป็นตั้งแต่ 3 ขวบ

ตอนนี้กำลังอยากอัพเกรดเป็น Roku Premier+ เพื่อจะได้ดู Netflix แบบ 4K HDR ได้ แต่ก็ไม่รีบเท่าไหร่ครับ

คุมเครื่องปรับอากาศ – Sensibo Sky

แอร์บ้านเราส่วนใหญ่เป็นแบบแขวนผนัง หรือฝัง แต่คุมด้วยรีโมท เลยใช้พวก Smart Themostat ยี่ห้อดังๆ อย่าง Nest หรือ Ecobee ไม่ได้

ตัวเลือกที่ผมคิดว่าน่าจะใช้ได้มีอยู่สองอัน คือ Sensibo Sky อันนี้ ที่กำลังรอของมาส่ง กับอีกอันคือ Ambi Climate ครับ แต่ Sensibo Sky ใช้กับ Alexa ได้เลยทันที ขณะที่ Ambi Climate สัญญาว่าจะใช้ได้เร็วๆ นี้ ผมเลยเลือกซื้อ Sensibo

กล้องวงจรปิด

กล้องวงจรปิดผมยังใช้ระบบ IP Camera + NVR (Network Video Recorder) ที่ใช้มาหลายปีแล้ว ยังไม่เปลี่ยน เพราะให้ไฟล์วีดีโอเก็บไว้กับเรา มากกว่าไปอยู่บน cloud ครับ

กลอนประตู

สำหรับระบบที่เกี่ยวกับความปลอดภัย เช่นกลอนประตูและเซ็นเซอร์ประตูหน้าต่าง ผมยังไม่เชื่อมั่นระบบที่เป็น cloud-based เท่าไหร่ ถ้าระบบรวนขึ้นมา เข้าบ้านไม่ได้ หรือร้ายกว่านั้นให้คนอื่นเข้ามาได้ คงไม่ดี ตอนนี้เลยยังใช้กลอนประตูธรรมดา หรืออาจจะเปลี่ยนเป็นแบบที่อ่านลายนิ้วมือครับ

1 Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *